รูขุมขนถูกสร้างเสร็จสิ้นตั้งแต่อยู่ในครรภ์ รูขุมขนบนใบหน้ามีจำนวนโดยเฉลี่ย 200,000-300,000 มากน้อยต่างกันไปในแต่ละคน ขึ้นกับขนาดใบหน้า พันธุกรรม เชื้อชาติ จำนวนรูขุมขนไม่เพิ่มไม่ลดตามอายุ แต่ขยายขนาดได้เมื่ออายุมากขึ้น จำนวนรูขุมขนในเพศหญิงและชายมีจำนวนไม่ต่างกันมากนัก ส่วนลึกสุดของรูขุมขนจะมีต่อมที่เป็นต้นกำเนิดของขน เราเรียกต่อมนี้ว่า ต่อมขน (hair follicle) มีรูปร่างเป็นกระเปาะ บางครั้งก็เรียกว่า กระเปาะขน
รูขุมขนถูกแบ่งออกเป็น 3 ประเภทโดยใช้ต่อมขนเป็นตัวจำแนก
1. ต่อมขนอ่อน (vellous follicles) : เป็นรูขุมขนที่พบมากที่สุดบนร่างกาย เส้นขนที่แทงออกมามีลักษณะเป็นขนอ่อน
2. ต่อมขนแข็ง (terminal follicles) : เส้นขนที่แทงออกมามีลักษณะแข็งและเส้นใหญ่ เช่น หนวด เครา ผม รักแร้
3. ต่อมขนไขมัน (Sebaceous follicles) : เป็นรูขุมขนที่มีต่อมไขมันขนาดใหญ่เชื่อมต่อ ทำหน้าที่ผลิตน้ำมันหล่อเลี้ยงผิวชั้นนอกสุดเส้นขนที่แทงออกมาจะเป็นเส้นเล็กๆ รูขุมขนชนิดนี้พบมากที่ผิวหน้า และกลางหลัง คนที่มีผิวมัน รูขุมขนจะขยายออกเพื่อระบายน้ำมัน นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมคนผิวมัน รูขุมขนจึงกว้าง การที่ธรรมชาติสร้างให้ผิวหน้ามีรูขุมขนประเภทนี้มากที่สุดก็เพื่อปกป้องผิว เนื่องจากผิวหน้าเป็นส่วนที่จะต้องเผชิญกับมลภาวะมากกว่าผิวส่วนอื่น ทั้งอากาศร้อนเย็น ลม แสงแดด จึงต้องมีน้ำมันเคลือบปกป้องผิวอยู่เสมอ จัดเป็นกลไกการรักษาความชุ่มชื้นของผิวตามธรรมชาติ
โครงสร้างรูขุมขน
สาเหตุของรูขุมขนกว้าง มี 4 สาเหตุหลัก คือ
1.ปริมาณน้ำมันใต้ผิว (sebum) : - หากน้ำมันใต้ผิวถูกผลิตออกมามาก รูขุมขนจะขยายออกเพื่อระบายน้ำมัน คนผิวมันจึงมีขนาดรูขุมขนที่กว้างกว่าคนผิวแห้ง
- ผู้ชายมักมีมีปัญหารูขุมขนกว้างกว่าผู้หญิง เพราะมีปริมาณฮอร์โมนเพศชายมากกว่า อย่างไรก็ตามในเพศหญิงที่มีความแปรปรวนของฮอร์โมนเพศ เช่น มีความเครียด พักผ่อนน้อย หรือเข้าใกล้วัยทอง สมดุลระหว่างฮอร์โมนเพศหญิงและชายเสียไป จึงมีโอกาสที่หน้าจะมันมากขึ้นและรูขุมขนใหญ่ขึ้นกว่าปกติได้เช่นกัน
- วัยเจริญพันธุ์ : มีระดับฮอร์โมนเพศสูง การผลิตน้ำมันใต้ผิวก็สูงตามไปด้วย
- ผิวขาดน้ำ ผิวอักเสบ จากการดูแลผิวผิดวิธี ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ไม่เหมาะกับสภาพผิว หรือมีส่วนผสมที่ระคายเคือง ทำให้ผิวพยายามผลิตน้ำมันมาชดเชย
- อากาศร้อน มีส่วนกระตุ้นให้ต่อมไขมันทำงานมากขึ้น น้ำมันถูกผลิตมากขึ้น
2.ความเสื่อมของคอลลาเจนและอีลาสติน : ทำให้รูขุมขนหย่อนคล้อย ไม่กระชับ ปัจจัยหลักๆที่ทำให้คอลลาเจนและอีลาสตินเสื่อม ได้แก่ อายุ และแสงแดด - ที่อายุ 25 ปีขึ้นไป จะมีอัตราการเสื่อมของคอลลาเจนมากกว่าการสร้าง ผิวจะเริ่มขาดความยืดหยุ่นและความกระชับ
- การถูกทำลายจากแสงแดดสะสม โดยเฉพาะรังสี UV-A ที่สามารถทะลุเข้าไปทำลายถึงชั้นหนังแท้ ทำให้คอลลาเจน อีลาสติน กรดไฮยาลูโรนิค เสื่อมเร็วขึ้น
3. ผิวขาดความสมดุล ผิวอักเสบ : แสงแดด การดูแลผิวผิดวิธี ใช้สารชะล้างรุนแรง ถูหน้าแรง ใช้ครีมกัดหน้าบ่อย ใช้ครีมที่ไม่เหมาะกับสภาพผิว ใช้ครีมที่มีส่วนผสมทำร้ายผิว ความเครียด พักผ่อนน้อย เหล่านี้มีส่วนทำให้ผิวอ่อนล้า เสียสมดุลและอักเสบ มีผลทำให้ผิวเกิดความหยาบกร้าน ขาดน้ำ รูขุมขนกว้างขึ้น- พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน : การพักผ่อนไม่เพียงพอ ดื่มน้ำน้อย ไม่ทากันแดด
- ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่มีฤทธิ์ชะล้างสูง หรือใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของสารก่อการระคายเคือง
- ขัดหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ประเภทสครับที่เม็ดสครับมีขนาดใหญ่ คม หยาบ จนเกิดการบาดผิวในขณะขัด
- การล้างหน้าด้วยน้ำร้อนหรือเย็นจัด การทำสปาหน้าแบบร้อนหรือเย็น
- สภาพอากาศแห้งจัด ร้อนจัด รังสียูวีทำให้ผิวอักเสบ
4. พันธุกรรม : พันธุกรรมมีส่วนอย่างมากต่อลักษณะผิวพรรณ พ่อแม่ที่มีลักษณะผิวคล้ำ รูขุมขนกว้าง ผิวมัน มักส่งต่อลักษณะเหล่านี้แก่บุตร สังเกตได้ว่าบางครอบครัวผิวหยาบรูขุมขนกว้าง บางครอบครัวรูขุมขนเล็กผิวเนียนละเอียด
ฟาร์มาบิวตี้แคร์ขอสรุปสาเหตุของรูขุมขนกว้างด้วยภาพนี้ค่ะ
"ผิวมันขาดน้ำ" ผิวเสียสมดุล นำไปสู่ผิวอักเสบ
เมือผิวอักเสบจะเกิดการส่งสัญญาณไปกระตุ้นสารเคมีบางอย่างที่สมองที่ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของฮอร์โมนในร่างกาย ผลที่เกิดขึ้นก็คือ มีการเหนี่ยวนำให้สารสื่ออักเสบบางตัวไปสะสมที่ต่อมน้ำมันใต้ผิว และกระตุ้นการผลิตน้ำมัน หน้ามีน้ำมันเคลือบแต่ดูแห้งรูขุมขนกว้างขึ้นและมักจะมีสิวอุดตันเม็ดเล็กๆขึ้นประปรายทั่วหน้า
ลักษณะที่ปรากฏ : สภาพผิวภายนอกดูมัน แต่ถ้าเพ่งมองผิวใกล้ๆ จะเห็นความเหี่ยวแห้งของผิวเป็นริ้ว เหมือนผิวแอบเปิ้ลที่ทิ้งไว้หลายวันจนเหี่ยว ในรายที่อาการรุนแรง อาจจะมีสิวอุดตันและสิวอักเสบขึ้นกระจายทั่วหน้า เมื่อลูบที่ใบหน้าจะรู้สึกว่าผิวสาก เหมือนเป็นสิวผดกระจายทั่วหน้า แต่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น
ลักษณะเฉพาะของ "ผิวมันขาดน้ำ" คือ ยิ่งใช้ผลิตภัณฑ์ควบคุมความมัน หน้ายิ่งมัน เนื่องจากผิวด้านล่างขาดน้ำอยู่แล้ว ยิ่งไปใช้ผลิตภัณฑ์ที่ควบคุมความมัน ผิวจะตอบสนองโดยการขับน้ำมันมาชดเชย ทำให้ผิวภายนอกมีน้ำมันเคลือบมากขึ้น
การกระชับรูขุมขน เป็นเรื่องที่ไม่สามารถทำได้ง่าย วิธีที่ได้ผลมากที่สุด คือการปรับสมดุลน้ำ-น้ำมัน หรือระดับความมัน-แห้ง ของผิว ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมที่สุด ขนาดของรูขุมขนก็จะแคบมากที่สุด แต่จะแคบได้มากแค่ไหนก็ขึ้นกับสภาพผิวตามกรรมพันธุ์ที่พ่อแม่ให้มาด้วยค่ะ
รูขุมขนกว้าง ใช้อะไรดี?
ก่อนเลือกผลิตภัณฑ์ ควรทราบต้นเหตุปัญหาของตัวเองก่อน ว่าปัญหารูขุมขนกว้างของเราเกิดจากอะไร ไม่ง่ายนักแต่ก็ไม่ยากเกินไป ลองดูในภาพสรุปสาเหตุด้านบนอีกครั้ง ว่าสาเหตุของเราอยู่ในข้อใด
1. เกิดจาก ผิวอักเสบ ผิวขาดน้ำ
สิ่งที่ต้องทำคือ
- ปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการพักผ่อน การทานอาหาร ดื่มน้ำ ให้อยู่ในทางสายกลาง
- เปลี่ยนสกินแคร์ที่เหมาะกับสภาพผิว ข้อนี้อาจจะยากหน่อย เพราะการอ่าน ingredient lists นั้นไม่ใช่ว่าทุกคนจะถนัดและดูเป็น ฟาร์มาบิวตี้แคร์สามารถให้คำปรึกษาท่านได้ค่ะ
- งดการใช้ผลิตภัณฑ์ขัดผิวหน้าที่รุนแรงและงดการใช้สบู่หรือผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่เป็น soap base ซึ่งอาจอยู่ในรูปสบู่ก้อน โฟมล้างหน้า หรือสบู่เหลวล้างหน้า
- หลีกเลี่ยงการออกแดด หรือป้องกันรังสียูวีให้ได้มากที่สุด เช่น การทากันแดดในปริมาณที่เพียงพอ ทาซ้ำทุก2 ชั่วโมง
- ใช้เซตบำรุงที่เหมาะกับสภาพผิว
2 . เกิดจากผิวมันมากเกินไป กลุ่มนี้มักจะมีปัญหาสิวอุดตันและสิวอักเสบ ร่วมด้วย
สิ่งที่ต้องทำคือ
- ลดการขัดถูหน้ารุนแรง
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอเพื่อช่วยระบายน้ำมันออกจากรูขุมขน
- ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดความมัน รักษาสิว
- ใช้เซตบำรุงที่เหมาะกับสภาพผิว
3. เกิดจากผิวขาดความกระชับ ยืดหยุ่น ผิวโทรม อ่อนล้า เนื่องจากอายุมากขึ้น
สิ่งที่ต้องทำคือ
- การพักผ่อนให้เพียงพอ
- ทานอาหารที่มีประโยชน์
- ทากันแดดทุกวันอย่างเพียงพอ
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
- ใช้เซตบำรุงที่เหมาะกับสภาพผิว
มีปัญหาผิวต่างๆ ต้องการปรึกษา แอดไลน์ id :@pharmabeautycare หรือสแกนคิวอาร์โค้ดด้านล่างนี้เลยค่ะ