Evidence-based Beauty เปิดตำราสวย ..สวยอย่างฉลาด ประหยัด ปลอดภัย

" สวย " แบบมีข้อมูลอ้างอิง
" สวย " บนหลักความจริง ไม่หวือหวา
" สวย " จากการใช้จริง ไม่ใช่จ้างมา
" สวย " ด้วยคุณค่าในตัวเอง

เริ่มด้วยคำกลอนที่แต่งเองสดๆในเวลาไม่ถึง 1 นาที อยู่ดีๆก็นึกครึ้มแต่งขึ้นมาซะงั้น โดยมีคำว่า Evidence-Based Beauty เป็นเมนของความคิดในตอนนั้น แล้วก็ตามด้วยการให้ลูกค้าที่น่ารักท่านหนึ่งทำแบนเนอร์สวยใสน่ารักตามที่ทุกท่านเห็น ต้องขอขอบคุณ "คุณเอ้ " กราฟฟิคดีไซเนอร์ใจดีที่สละเวลามาช่วยให้ฟาร์มาบิวตี้แคร์มีสีสันและน่าติดตาม

เนื้อหาโดยรวมของบทความนี้ น่าจะอยู่ใน Blog มากกว่าจะมาอยู่ในเวบขายสินค้าของตัวเอง กลัวใครหลายคนอ่านแล้ว อาจจะมีความรู้สึกว่าผู้เขียนตั้งใจโจมตีเวบอื่นให้ดูแย่หรือเปล่า ขอบอกตั้งแต่ก่อนจะเริ่มบทความเลยว่า " ไม่มีเจตนา " แต่ต้องการเขียนบทความนี้ให้ทุกท่านที่มีโอกาสมาอ่านได้นำไปประกอบการตัดสินใจในการพิชิตความสวย ครั้นจะไปเปิด blog ก็ไม่อยากเพิ่มงานให้มากขึ้นอีก แค่งานเวบฟาร์มา ก็จะไม่ไหวแล้วค้า ก็เลยขอรวบบทความทุกประเภทมาอยู่ในเว็บฟาร์มาเลยละกัน

ยุคธุรกิจบิวตี้ออนไลน์กำลังเฟื่องฟู มีเว็บขายครีมเพิ่มขึ้นทุกวัน เว็บเก่าไป เว็บใหม่มา โหมโฆษณาอย่างหนัก เกทับกัน กลั่นแกล้งกัน อวยกัน สารพัด แล้วผู้บริโภคอย่างเราที่นิยมซื้อของตามเว็บจะทำอย่างไรดี? ไม่ยากค่ะ ยึดคำว่า  " Evidence-based Beauty" เป็นแนวคิดหลักก่อน แล้วก็ค่อยๆทำความเข้าใจไปที่ละ step  พออ่านจบก็จะได้ไอเดีย

Evidence-based Beauty  ไม่มีคำนี้ในระบบสากล คิดเองค่ะ โดยมีคำว่า  Evidence-based medicine ในช่วงทำงานเป็นนักวิจัย เป็นต้นแบบ  

Evidence-based medicine คืออะไร? 
Evidence-based medicine (EBM) คือ การตัดสินใจทางการแพทย์ (การรักษาผู้ป่วย) โดยยึดข้อมูลและหลักฐานทางวิทยาศาสตร์และงานวิจัยที่ดีที่สุดในขณะนั้นมาประกอบการตัดสินใจ พอแผลงมาเป็น Evidence-based Beauty  (EBB) ก็แปลความหมายรวมๆได้ว่า การตัดสินใจกระทำการใดๆก็ตามเพื่อพิชิตความสวยโดยยึดข้อมูลและหลักฐานที่มีในขณะนั้นมาประกอบการตัดสินใจ

ข้อมูลและหลักฐานในทางการแพทย์ (medicine) หมายถึง งานวิจัย การทดลอง รายงานต่างๆ ซึ่งมีอยู่มาก ย้ำว่ามากจริงๆ ก่อนนำข้อมูลเหล่านั้นมาใช้ ต้องมีการวิเคราะห์ความน่าเชื่อถือของข้อมูลและรวมเข้าด้วยกันเพื่อให้มีน้ำหนักมากพอที่จะเอามาอ้างอิงก่อนตัดสินใจ อย่าลืมว่า ชีวิตคนไข้สำคัญ จะตัดสินใจทำอะไรมีผลต่อชีวิต ทุกอย่างต้องรอบคอบ

ข้อมูลและหลักฐานในทางความสวย (beauty)  ความหมายกว้างมาก ไม่ว่าจะเป็น งานวิจัย การทดลอง  หนังสือหรือบทความจากโดยผู้รู้ เช่นแพทย์ กูรูความงามที่น่าเชื่อถือ รวมไปถึงคำบอกเล่าจากผู้ที่เคยได้ใช้จริง  เมื่อข้อมูลและหลักฐานด้านความสวยก็มีมากไม่แพ้ทางด้านการแพทย์ ทั้งข้อมูลจริงข้อมูลลวง  ต้องใช้วิจารณญาณก่อนจะเชื่อ ไม่อย่างนั้น นอกจากจะเสียเงินแล้ว อาจจะเสียผิวสวยๆไปด้วย

" สวยแบบมีข้อมูลอ้างอิง สวยบนหลักความจริงไม่หวือหวา สวยจากการใช้จริงไม่ใช่จ้างมา สวยด้วยคุณค่าในตัวเอง "

"สวย " แบบมีข้อมูลอ้างอิง

◙ ก่อนจะทาอะไรลงบนผิว ดู ingredients list ประกอบการตัดสินใจทุกครั้ง สารแต่ละตัวมันทำหน้าที่อะไร ทาแล้วมันไปทำอะไรบนผิว ข้อดีของมันคืออะไร ข้อเสียล่ะคืออะไร ส่วนผสมโดยรวมทั้งหมดที่ระบุบนผลิตภัณฑ์มันไปกันได้กับสรรพคุณที่โฆษณาหรือไม่ เช่น ช่วยปรับผิวให้ใส ลดฝ้า กระ อ่านส่วนผสมดูแล้ว ไม่มีตัวไหนจะช่วยได้เลย แบบนี้ก็อย่าซื้อเลย  ไม่จำเป็นต้องรู้จักส่วนผสมทั้งหมด เอาพอแค่แยกให้ออกว่าตัวไหนคือสารช่วย ตัวไหนคือแอคทีฟ  ถ้าอ่านบ่อยๆและหมั่นหาความรู้ในหนังสือ ใน Google หรือสอบถามผู้รู้อยู่เสมอ จะรู้ว่าการอ่านส่วนผสมนั้นไม่ยากอย่างที่คิด  การอ่านส่วนผสมดีอย่างไร

1. จะได้รู้ว่าส่วนผสมที่ใส่มามันพอจะแก้ปัญหาผิวเราได้หรือไม่
2. มีส่วนผสมใดบ้างที่อาจจะทำให้เกิดการระคายเคือง
3. มีส่วนผสมใดบ้างที่เรามีประวัติแพ้ จะได้ไม่ต้องซื้อ ไม่เสียเงิน หน้าไม่แหก

◙ ก่อนจะซื้อเครื่องสำอาง ดูเลขที่จดแจ้งประกอบเสมอ เช็คให้ชัวร์ว่าเป็นเลขจดแจ้งจริงไม่ใช่การสวมเลขคนอื่นมา แม้เลขจดแจ้งจาก อย. จะไม่ได้การันตีว่าสินค้านั้นไร้สารต้องห้าม แต่สินค้าที่มีเลขจดแจ้งระบุก็ดีกว่าที่ไม่มี
◙ ดูความครบถ้วนของฉลากว่าเป็นไปตาม อย.กำหนดหรือไม่ การที่เจ้าของแบรนด์ได้จัดทำฉลากให้เป็นไปตามที่ อย.กำหนด แสดงให้เห็นว่าเจ้าของแบรนด์มีความรับผิดชอบต่อสินค้าของตนและบริสุทธิ์ใจที่จะให้ข้อมูลสินค้าแก่ผู้บริโภค ฉลากครบถ้วนต้องมีอะไรบ้าง ดูภาพนี้ค่ะ

" สวย " บนหลักความจริง ไม่หวือหวา

ผิวพรรณ สีผิว หน้าตา  ต้องยอมรับว่าถูกกำหนดแล้วโดยยีนจากพ่อแม่ การจะเปลี่ยนแปลงอย่างสิ้นเชิง ถือเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยากหรือแทบเป็นไปไม่ได้เลย การทำความเข้าใจและใจยอมรับในความจริงข้อนี้จะช่วยให้เรารู้จักยับยั้งชั่งใจ และเชื่อในสิ่งที่เป็นไปได้เท่านั้น ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ไม่ใช่ยา ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้เท่ากับยา หากเจอคำกล่าาวอ้างที่ไปในทางการรักษาและมีกลไกการออกฤทธิ์เหมือนยา ให้ระวังไว้ก่อน ว่าอาจจะมีส่วนผสมของยา
ตัวอย่างคำกล่าวอ้างที่ไม่อยู่บนหลักความจริง

คำ...แน่นอน !   

◙ ไม่แพ้แน่นอน  : ไม่มีใครรู้ว่าใครจะแพ้อะไรหรือไม่แพ้อะไร นอกจากจะลองใช้ด้วยตัวเอง การเอาผลจากคนอื่นมาเดาผลที่จะเกิดกับตัวเอง เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ เข่น เพื่อนใช้แล้วแพ้ เราก็คงแพ้ เราไม่แพ้ เพื่อนใช้ก็คงไม่แพ้ เหล่านี้ไม่ถูกต้อง
◙ ขาวแน่นอน  : สีผิวแต่ละคนถูกกำหนดโดยยีน การจะขาวขึ้นได้หรือไม่ ขึ้นกับปัจจัยหลายอย่าง ไม่ใช่แค่การใช้ whitening หรือการทาครีมกันแดด บางคนใช้มาสารพัดครีมตัวขาวจนอิ่มตัว จะใช้อะไรต่อก็ไม่อาจขาวขึ้นกว่าเดิมได้
◙ สิวหายแน่นอน : สาเหตุของสิวแต่ละคนมีหลากหลายและไม่เหมือนกัน ผลิตภัณฑ์แต้มสิวทั้งหลาย ล้วนเป็นการแก้ที่ปลายเหตุ หากสาเหตุที่แท้จริงยังไม่ได้รับการแก้ไข สิวใหม่ก็จะยังขึ้นมาเรื่อยๆ คำว่าสิวหายแน่นอน จึงเป็นไปได้ยากมาก
◙ ได้ผลแน่นอน  : ผิวแต่ละคนไม่เหมือนกัน คนอื่นใช้ดี ไม่ได้แปลว่าเราจะใช้แล้วดีเหมือนคนอื่น

คำว่า...ถาวร !

◙ ขาวถาวร  :  ในโลกนี้มีอะไรจะทำให้ขาวถาวรได้หรือ? นอกจากคุณจะกัดสีผิวให้เป็นด่างถาวรนะได้ เหมือนคนดังต่างประเทศ แต่ใครจะอยากด่างถาวร เดินไปไหนใครก็ว่าเป็นโรค สีผิวถูกกำหนดมาแล้ว แต่ละคนขาวขึ้นได้มากสุด เท่ากับสีผิวในส่วนที่ไม่ถูกแดด เช่น หลัง ต้นขา หน้าท้อง ไม่มีหรอกที่ใช้แล้วจะขาวขึ้นเรื่อยๆแบบไม่มีที่สิ้นสุด ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง คุณจะกล้าใช้เหรอ ครีมที่บอกว่าขาวขึ้นเรื่อยๆตลอดการใช้ น่ากลัวมาก

◙  สิวหายถาวร : สิวไม่มีทางหายถาวร  แม้แต่หมอผิวหนังยังบอกว่าไม่มีอะไรทำให้สิวหายถาวรได้ สิวมีสาเหตุหลายอย่าง มันจะขึ้นตอนไหนก็ได้ในช่วงชีวิต ถ้ามีครีมที่ทำให้สิวหายถาวรได้ ป่านนี้หมอผิวหนังตกงานกันหมด และคำว่าสิวจะหายไปจากโลกนี้  ในชั่วชีวิตหนึ่งคุณคงไม่เป็นสิวแค่ครั้งเดียวในชีวิต แต่จะขึ้นอีกเมื่อไหร่นั้น คงบอกไม่ได้ คนขายอาจจะมรณภาพไปก่อนแล้ว

คำว่า...100% !

" สวย " จากการใช้จริง ไม่ใช้จ้างมา

 กินแล้วขาว นวดแล้วผอม ทาแล้วสวย มีรูปประกอบ เจ้าของรูปใช้จริงบ้าง ถูกละเมิดเอารูปมาตัดต่อบ้าง ถูกจ้างมาบ้าง  ผ่านการตกแต่งด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์อย่างละเอียดละออ และถ้าเป็นดาราถือสินค้าถ่ายรูปคู่กันแล้ว  ยิ่งน่าเชื่อถือใหญ่ ใครๆก็อยากสวยเหมือนดารา ทั้งที่ไม่ได้ใช้จริง  แต่ถูกจ้างมาด้วยค่าจ้างแสนแพง และคนขายก็ได้จัดสรร (allocate) ต้นทุนส่วนค่าจ้างนั้นมารวมอยู่ในราคาสินค้าเรียบร้อยแล้ว

อะไรที่เห็นจากรูปและได้ยินต่อๆกันมาว่าดีอย่างนู้น ดีอย่างนี้ อย่าเพิ่งเชื่อ ในโลกนี้มีเรื่องจริงและเรื่องเท็จผสมกันเสมอ เราเรียกว่า " ข้อเท็จจริง"  สิบปากว่า ไม่เท่าตาเห็น สิบตาเห็นไม่เท่ามือคลำ จงเชื่อเมื่อมั่นใจว่าคนๆนั้นใช้จริง แต่อะไรก็ไม่ดีเท่าเราลองใช้เอง เพราะผิวแต่ละคนไม่เหมือนกัน
  

" สวย " ด้วยคุณค่าในตัวเอง

ข้อนี้ตรงกับสุภาษิตไทยที่ว่า คนจะงาม งามน้ำใจ ใช่ใบหน้า คนจะสวย สวยจรรยา ใช่ตาหวาน หมายถึง ต่อให้เราดูแลผิวพรรณภายนอกให้ดีเพียงใด ถ้าภายในเราไม่สวย ก็หมดความหมาย
ผู้หญิงบางคนผิวพรรณหน้าตาดูแสนธรรมดา ใช้เครื่องสำอางทั่วไปไม่แบรนด์เนม ไม่แพง ไม่หรูเลิศ แต่วางตัวดี ก็กลายเป็นคนมีเสน่ห์และได้รับการชื่มชมจากคนทั่วไปแล้ว

สวยด้วยคุณค่าในตัวเอง ยังหมายความรวมไปถึงการสวยจากภายใน สวยด้วยสุขภาพที่ดีจากภายในอย่างแท้จริง จำไว้ว่าการใช้สกินแคร์เป็นตัวช่วยเสริมเท่านั้น การดูแลให้ร่างกายเรามีสุขภาพดีจากภายใน จะทำให้ผิวพรรณเราสวยแบบถาวร ไม่ต้องใช้ครีมแพง แค่เพียงล้างหน้าให้สะอาด ลงมอยเจอร์ไรเซอร์ที่ผสม whitening + anti aging ดีๆสักตัว ปิดด้วยกันแดด 3 อย่างนี้ก็เพียงพอแล้ว อย่าหวังให้สกินแคร์เป็นตัวช่วยหลักให้ผิว เวลาผ่านไป แอคทีฟตัวใหม่ๆก็เข้ามา ทุกครั้งที่มีอะไรใหม่ มันจะมาพร้อมกับคำว่า ดีกว่าเดิม และแพงกว่าเดิม และเช่นกันใช้แล้วก็เหมือนเดิม

สุขภาพที่ดีจากภายใน สะท้อนออกมาทางผิวพรรณได้ชัดเจน เพราะผิวหนังเป็นอวัยวะที่มีพื้นที่ผิวมากที่สุดในร่างกาย สุขภาพภายในไม่ดี ผิวก็จะแห้ง หมองคล้ำ เป็นสิว ริ้วรอย ฝ้ากระ มาเยือนไว บางคนอาจจะคิดว่า ก็ไม่ได้มีโรคประจำตัวอะไร สุขภาพแข็งแรงดี แต่ทำไมยังมีปัญหาสิว ริ้วรอยก่อนวัย
คำว่าสุขภาพดี ไม่ได้วัดที่ว่าคุณมีโรคประจำตัวหรือไม่ แน่นอนว่าคนมีโรคประจำตัว ก็ถูกจัดอยู่ในข่ายของผู้ที่มีสุขภาพไม่ดีไปแล้ว แต่คนดีๆที่ยังแข็งแรงไม่เจ็บป่วย แท้จริงแล้วภายในมีของเสียสะสมและมีการเสื่อมถอยทีละนิด พร้อมที่จะเปลี่ยนเป็นโรคประจำตัวได้ตลอดเวลา เหมือนรถยนต์ใหม่ซื้อมา เครื่องแน่น เผาไหม้บริสุทธิ์ เหยียบคันเร่งเท่าไหร่ รถก็ไปเท่านั้น แต่เมื่อเริ่มเก่า เท่ากับคนเริ่มแก่ (อายุ 30 ขึ้นไป จัดเป็นวัยเริ่มมีการเสื่อม) การเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ เครื่องยนต์หลวม กลิ่นควันจากปลายท่อไอเสียก็เริ่มเหม็นและเข้าสู่ช่วงการซ่อมและหมดอายุในที่สุด
ร่างกายคนเราก็เช่นเดียวกัน มีการเสื่อมถอยทีละนิดภายในร่างกายเรียกกว่า กระบวนการชรา ถ้าเราดูแลตัวเองดี การเสื่อมถอยก็เกิดขึ้นช้า โรคประจำตัวมาเยือนช้า แตถ้าดูแลตัวเองไม่ดี ร่างกายต้องรับภาระอย่างหนัก การเสือมถอยก็จะเกิดขึ้นเร็ว แก่เร็ว โรคประจำตัวมาเยือนเร็ว

อยากมีสุขภาพผิวดีจากภายใน ทำอย่างไร