Retin A, Retinol , Retinoids, Retinoic acid , Vitamin A, Retinal , Tretinion มีชื่อเรียกต่างๆกันที่ทำให้เรางงใช่ไหมคะ ชื่อก็คล้าย เขียนเกือบเหมือนกันอีก งงเลย เริ่มมาเรียนรู้กันเลยค่ะ
เริ่มจากคำว่า Retinoids
Retinoids คือ สารในกลุ่มเบต้าแคโรทีน (beta carotene) ที่พบตามธรรมชาติ เรารู้จักกันในชื่อ "วิตามินเอ และอนุพันธุ์ของวิตามินเอ ” นั่นเอง ดังนั้น Retinoids คือคำหลัก ที่มีความหมายครอบคลุม วิตามินเอ และ อนุพันธ์ของวิตามินเอ ทั้งหมด
Retinoids มักพบในผลิตภัณฑ์รักษาสิวและผลิตภัณฑ์ลดริ้วรอยทำให้ผิวเนียนเรียบ มีสีสม่ำเสมอมากขึ้น
สารในกลุ่ม Retinoids ได้แก่
1. retinyl esters เช่น retinyl propionate และ retinyl palmitate
2. retinol (วิตามินเอ)
3. retinaldehyde
4. retinoic acid (กรดวิตามินเอ )
Retinoic acid / Tretinoin / กรดวิตามินเอ คือ สารตัวเดียวกัน แค่เรียกต่างกัน
กรดวิตามินเอ เป็น active form หมายถึง สามารถออกฤทธิ์ได้ด้วยตัวมันเอง ถูกนำมาใช้ผสมในครีมยาทาสิว ลดรอยแผลเป็น รอยเหี่ยวย่น เช่น Retin-A® ,Renova® ,Stieva-A® โดยในความเข้มข้นสูง (0.1%) ใช้เพื่อรักษาสิว และในความเข้มข้นต่ำ (0.025, 0.05%) ใช้เพื่อรักษาผิวที่มีริ้วรอยหรือจุดด่างดำอันเป็นผลจากแสงแดด หรือ photodamage กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยลดรอยแตกลายของผิว (Stretch marks)
กรดวิตามินเอ สามารถก่อให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ คือ ทำให้ผิวแห้ง และก่อให้เกิดการระคายเคืองบนผิวได้อย่างรุนแรง ตามประกาศของ อย. จัดสารนี้เป็นยา จึงห้ามใช้ในเครื่องสำอางส่วน retinyl esters, retinol, retinaldehyde จัดเป็นสารตั้งต้นเท่านั้น ตัวมันเองไม่มีฤทธิ์ใดๆ ต้องอาศัยเอนไซม์ในชั้นผิวเปลี่ยนให้เป็นกรดวิตามินเอเสียก่อน แล้วจึงออกฤทธิ์ได้ ลำดับการเปลี่ยน คือ retinyl esters → retinol → retinaldehyde → retinoic acid (active form)
ด้วยเหตุนี้เองทำให้ผลของการใช้สารตั้งต้นเหล่านี้ น้อยกว่าการใช้กรดวิตามินเอทาลงบนผิวโดยตรงทั้งในด้านประสิทธิภาพและการระคายเคือง
Retinol (วิตามิน เอ)
- ช่วยปรับโครงสร้างชั้นบนสุดของผิวหนังชั้น keratin (keratinization) ที่อยู่ใกล้รูขุมขน
- ช่วยลดการอุดตันของเคราตินในรูขุมขน จึงลดการเกิดคอมีโดนและลดสิวได้
- ช่วยปรับผิวให้เรียบ รูขุมขนดูกระชับ ส่วนหนึ่งเกิดจากไม่มีคอมีโดนอุดอยู่ข้างใน รูขุมขนที่สะอาดจะแลดูเล็กลง
- มีคุณสมบัติในการละลายคอมีโดน เนื่องจากมีคุณสมบัติละลายในไขมัน จึงซึมเข้าสู่ต่อมไขมันใต้ผิวได้ดี มีฤทธิ์ลดการผลิตไขมันจากต่อมไขมัน
- ช่วยลดการอักเสบของสิว ลดการเจริญเติบโตของเชื้อ P.acne
- ช่วยผลัดเซลล์เคราตินให้หลุดออกโดยการเสริมสร้างเซลล์ผิวชั้นที่ลึกกว่า
Retinoid กลุ่มสังเคราะห์
Differin® มีส่วนประกอบเป็น adapalene เป็น Retinoid กลุ่มสังเคราะห์ ความเข้มข้นที่มีจำหน่ายคือ 0.1% ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองน้อยกว่าการใช้ tretinoin และยังไม่ทราบแน่นอนว่ามีผลต่อการรักษา photoaging หรือไม่
Retinoid กลุ่มสังเคราะห์ อีกตัวหนึ่งคือ tazarotene ซึ่งก่อให้เกิดการระคายเคืองน้อยกว่า tretinoin และ adapalene ใช้รักษาสิวและเรื้อนกวางเช่นกัน โดยมีจำหน่ายที่ความเข้มข้น 0.05 และ 0.1% ภายใต้ชื่อ Tazorac® และ Zorac® ส่วน Avage® ใช้รักษาผิวซึ่งถูกทำร้ายจากแสงแดด
สิ่งที่ควรระวังมากที่สุดในการใช้สารในกลุ่มนี้ นอกเหนือไปจากการทำให้ผิวระคายเคือง คือก่อให้เกิด “teratogenic effect” นั่นคือทำให้เกิดความผิดปกติของทารกในครรภ์ได้ ดังนั้นผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ หรือสงสัยว่าตั้งครรภ์ ห้ามใช้สารในกลุ่มนี้ (Retinoids) โดยเด็ดขาดค่ะ
ขอบคุณข้อมูลส่วนหนึ่ง จาก www.pleasehealth.com โดย อ.ภญ.หรรษา มหามงคล
อ้างอิงจาก Oblong JE., Bissett DL. Retinoids. In: Draelos ZD. ed. Cosmeceuticals. 2nd Ed. China: Elsevier: 2009; 37 - 44