Last updated: 15 ก.ค. 2566 | 499169 จำนวนผู้เข้าชม |
ก่อนเข้าเรื่อง ขอทำความเข้าใจกับผู้อ่านทุกท่านก่อนนะคะ
คำว่า " สิว " ในบทความนี้ทั้งหมด ใช้อธิบาย " สิวปกติ " เท่านั้น สิวปกติคืออะไร? สิวปกติ คือ สิวที่เกิดจากการอุดตันของคอมีโดนในรูขุมขน
ส่วนสิวไม่ปกติ เช่น สิวแพ้ยา, ผื่นคล้ายสิว, สิวเทียม, สิวผดจากยีสต์, สิวสเตอรอยด์ ฯลฯ
สำหรับผู้ที่สงสัยว่าตัวเองกำลังเป็นสิวสเตอรอยด์อ่านทางนี้ >> สิวสเตอรอยด
สิว (Acne vulgaris) เกิดจากอะไร
รูปที่ 1 แสดงโครงสร้างรูขุมขน
องค์ประกอบในรูขุมขน ที่เกี่ยวข้องกับการเกิดสิว
1. ขนอ่อน ในแต่ละรูขุมขนอาจมีขนอ่อนได้มากกว่า 1 เส้น
2. ต่อมไขมัน ทำหน้าที่ผลิตน้ำมันและลำเลียงผ่านรูขุมขนขึ้นไปฉาบผิวด้านบน
3. เซลล์บุผนังรูขุมขนที่มีการหลุดลอกออกตามธรรมชาติทุก 28 วัน
4. แบคทีเรียหลายชนิด แต่ตัวที่มีบทบาทสำคัญในการก่อให้เกิดสิว คือ Propionibacterium acnes หรือที่เราเรียกกันติดปากว่า พี แอคเน่ (P.acne)
สาเหตุของสิว
สิวมีสาเหตุหลักจากการอุดตันของคอมีโดน อะไรก็ตามที่ไปกระตุ้นให้เกิดคอมีโดนทั้งทางตรงและทางอ้อม นั่นคือสาเหตุที่ทำให้เกิดสิว
รูปที่ 2 แสดงปัจจัยที่ทำให้เกิดคอมีโดน
แบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ
การระคายเคืองซ้ำๆ ทำให้เป็นสิวเรื้อรังได้อย่างไร
ประเภทของสิว สิวมีกี่แบบ
การแยก ประเภทของสิว และการ เรียกสิว อย่างถูกต้อง มีส่วนสำคัญในการเลือกผลิตภัณฑ์เพื่อรักษา บางคนเป็น สิวอักเสบ แต่เรียกว่า สิวอุดตัน ถามว่าผิดไหม ก็ไม่ผิด เพราะสิวอักเสบก็คือสิวอุดตันที่ติดเชื้อจนกลายเป็นสิวอักเสบ แต่ควรเรียกว่าสิวอักเสบจะดีกว่า เพราะการเรียกผิดก็อาจทำให้เลือกผลิตภัณฑ์รักษาที่ผิดได้
รูปที่ 3 แสดงสิวแบบต่างๆ
ประเภทของสิว โดยทั่วไปเราแบ่งสิวออกเป็น 2 ประเภท คือ
1. สิวไม่อักเสบ (non-inflammatory acne) บางคนเรียก สิวอุดตัน สิวไม่มีหัว สิวคอมีโดน สิวผด สิวเสี้ยน และอีกหลายๆอย่าง จะเห็นว่าแต่ละคนเรียกชื่อสิวไม่เหมือนกัน ซึ่งทำให้ยากต่อการเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม (สิวไม่อักเสบ = หมายเลข 1,2)
2. สิวอักเสบ (inflammatory acne) สิวประเภทนี้มีลักษณะเฉพาะคือ เมื่อกดหรือสัมผัสจะรู้สึกเจ็บ ไม่ต้องสนใจว่าเจ็บมากหรือเจ็บน้อย แค่เจ็บก็คือ มีการอักเสบแล้ว และในบางกรณีก็สังเกตง่ายขึ้น เพราะสิวเหล่านี้มักจะมีอาการบวม แดง (สิวอักเสบ = หมายเลข 3,4,5)
เรามาเริ่มลงรายละเอียดแต่ละประเภทนะคะ เริ่มจาก
1. สิวอุดตันหัวเปิด หรือสิวหัวดำ (หมายเลข 1)
2. สิวอุดตันหัวปิด หรือสิวหัวขาว (หมายเลข 2)
3. สิวอักเสบ (หมายเลข 3,4,5)
5 ความเชื่อและ 5 ความจริงเรื่องสิว (เครดิต นพ.สมนึก อมรสิริพาณิชย์)
1. การดูแลสุขอนามัยที่ดีจะทำให้ลดการเกิดสิว
91.3% ของกลุ่มตัวอย่างเชื่อว่าการดูแลสุขอนามัยที่ดี เช่น การใช้สบู่ การดูแลความมันบนใบหน้าจะทำให้ลดการเกิดสิว
FACT ยังไม่มีข้อสรุปที่บอกว่าการดูแลผิวพรรณให้สะอาดอยู่ตลอดเวลาจะช่วยลดการเกิดสิวซ้ำร้ายหากการดูแลความสะอาดนั้นอาจทำให้เกิดสิวเพิ่มมากขึ้นด้วยหากดูแลผิดวิธียกตัวอย่างเช่น การใช้สบู่ที่มีฤทธิ์ในการชำระล้างที่สูงเกินไป การใช้มือถูนวดใบหน้ามากเกินไป
2. การล้างหน้าช่วยทำให้ลดการเกิดสิว
59.2% ของกลุ่มตัวอย่างเชื่อว่าการล้างหน้าบ่อยๆช่วยลดการเกิดสิว
FACT การล้างหน้าที่มากเกินไปร่วมกับการขัดถูจะทำให้สิวแย่ลง โดยการกระทำเช่นนี้อาจทำให้เกิดสิวอักเสบหรือรอยดำจากสิวขึ้นมาได้ เคยมีการทดลองเปรียบเทียบการรักษาสิวโดยแบ่งเป็นกลุ่มAพยายามรักษาสิวโดยทำให้ผิวแห้งที่สุด กลุ่มB รักษาตามปกติ กลุ่มC รักษาโดยพยายามหลีกเลี่ยงน้ำ ผลที่ได้คือ กลุ่ม Bและ C ให้ผลที่ดีกว่าการรักษาที่ทำให้ใบหน้าแห้ง
3. การแตะจับใบหน้าบ่อยๆมีผลทำให้สิวแย่ลงหรือไม่
88.3%ของกลุ่มตัวอย่างเชื่อว่าการแตะจับใบหน้าบ่อยๆมีผลทำให้สิวลง
FACT การแตะจับผิวหน้าบ่อยๆ เกิดการระคายเคืองของผิวหนังทำให้เกิดสิว เป็นความเชื่อที่ถูกต้องแต่หมอจะเพิ่มเติมคือการนวดหน้า ทำทรีตเมนท์ต่างๆทำให้เกิดสิวได้เช่นกัน
4. การแกะสิวหรือกดสิว
85.4%เชื่อว่าทำให้สิวแย่ลง
FACT ถูกต้องการแกะสิวและการกดสิวทำให้เกิดสิวและซ้ำร้ายยังทำให้มีรอยแผลเป็นจากสิวอีกด้วยฉะนั้นหลักการที่จะทำให้หัวสิวหลุดออกไปโดยเร็วที่สุดนั้นไม่ถูกต้อง หมอขอเสริมว่าการใช้น้ำกรดแต้มก็ไม่ได้ช่วยการรักษาสิว
5. การรับประทานอาหาร
69.9%เชื่อว่าอาหารบางอย่างทำให้เกิดสิว
FACT ก่อนหน้านี้แพทย์บางส่วนไม่เชื่อว่าการทานอาหารมีผลต่อการเกิดสิว แต่ในปัจจุบันมีการรายงานอาหารที่เกิดสิวมากขึ้นส่วนมากเป็นอาหารของชาวตะวันตกที่มีส่วนผสมของนมและผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมเช่น เนย sherbet ครีมต่างๆ ปัจจุบันวัยรุ่นไทยก็นิยมอาหารFast food เค้ก ขนมปังมากขึ้นจึงทำให้อัตราเกิดสิวมากขึ้น
ข้อคิดเตือนใจสำหรับคนเป็นสิว
1. สิวไม่ใช่กรรมที่ติดตัวมาแต่เกิดแล้วจะแก้ไขไม่ได้ การที่เรารักษายังไงก็ไม่หายขาด อาจเป็นเพราะยังไม่เจอวิธีที่ถูกต้องและใช่สำหรับเรา
2.สิวบางประเภท โดยเฉพาะสิวเสี้ยน สิวผดเม็ดเล็กๆ ที่เป็นๆหายๆ ถ้าไม่จ้องก็แทบมองไม่เห็น ควรปล่อยวางมันบ้าง บางคนทั้งเค้น ทั้งกด เช้าเย็น ว่างเป็นส่องกระจก จนหน้าแดงช้ำไปหมด อีกไม่นานมันก็ขึ้นมาใหม่แถมเยอะกว่าเดิมแล้วก็ยังอักเสบง่ายกว่าเดิมด้วย พฤติกรรมเหล่านี้ เป็นสาเหตุของการเกิดสิวเรื้อรัง
3.การใช้ผลิตภัณฑ์รักษาสิวทั้งหลาย เป็นการแก้ไขที่ปลายเหตุ ไม่ใช่วิธีที่จะทำให้สิวหายถาวร มีหมอผิวหนังท่านหนึ่งพูดว่าไม่มีผลิตภัณฑ์ใด หมอคนใด หรือยาใดในโลก ที่จะทำให้สิวหายถาวร ถ้ามีจริง ป่านนี้หมอผิวหนังคงตกงาน
4. การออกกำลังกาย การพักผ่อนให้เพียงพอ ทานอาหารที่มีประโยชน์ ทำให้สิวลดลงและหายได้
" ผลิตภัณฑ์รักษาสิว ไม่ช่วยให้สิวหายขาด หากยังไม่แก้ที่สาเหตุ "
นอกจากการใช้ผลิตภัณฑ์รักษาสิวแล้ว แนะนำให้ปรับไลฟ์สไตล์ร่วมด้วย ดังนี้
1. นอนไม่เกิน 5 ทุ่ม นอนให้ได้ประมาณวันละ 8 ชั่วโมง
2. ดื่มน้ำมากๆ จิบทีละน้อย แต่ให้บ่อยในระหว่างวัน
3. ออกกำลังกาย สัปดาห์ละ 3 ครั้ง ครั้งละอย่างต่ำ 30 นาที หากไม่มีเวลาไปออกกำลังกาย แนะนำให้ฝึกเล่นโยคะท่าง่ายๆ ที่บ้าน ประหยัดเวลาและช่วยปรับฮอร์โมนได้ดีค่ะ
4. ควบคุมอาหารมัน ขนมขบเคียว แป้ง ของหวาน รับประทานได้ แต่ไม่มากเกินไป
5. งดลูบคลำและส่องกระจกบ่อยๆ เพื่อลดความกังวล ซึงจะกระตุ้นให้เราอยากบีบ แกะ เหล่านี้ทำให้สิวแย่ลงและขึ้นที่เดิมซ้ำๆ