กลิ่นรักแร้ เกิดจากอะไร ทำไมทาโรลออนแล้วมักมีอาการคันยิกๆ ใช่การแพ้หรือไม่

Last updated: 25 ก.ค. 2565  |  32498 จำนวนผู้เข้าชม  | 

กลิ่นรักแร้ เกิดจากอะไร ทำไมทาโรลออนแล้วมักมีอาการคันยิกๆ ใช่การแพ้หรือไม่

กลิ่นตัว เป็นปัญหาของใครหลายคน แต่สำหรับบางคนนั้น กลิ่นที่กวนใจมากที่สุด คือ กลิ่นใต้รักแร้ วันนี้เราจะมาดูกันว่า ทำไมรักแร้ถึงมีกลิ่น และจะแก้ไขปัญหานี้ที่ต้นเหตุ ได้อย่างไร 

ที่ใต้รักแร้ของเรา ประกอบด้วยต่อมที่เกี่ยวกับการเกิดกลิ่นตัวอยู่ 2 ชนิดคือ 

1. ต่อมเหงื่อ หรือ Eccrine Sweat Glands  เป็นต่อมที่มีอยู่ทั่วทุกแห่งของร่างกาย ยกเว้นที่ริมฝีปากและอวัยวะสืบพันธุ์บางส่วน ต่อมเหงื่อชนิดนี้มีท่อขับถ่ายซึ่งเปิดออกที่ผิวหนังชั้นนอกสุดที่เรียกว่า รูเหงื่อ ต่อมนี้ทำหน้าที่สร้างเหงื่อแล้วขับถ่ายออกมาตลอดเวลา เพื่อช่วยระบายความร้อนให้ร่างกาย แต่เนื่องจากมีการระเหยไปตลอดเวลาเช่นกัน  ดังนั้น จึงมักสังเกตไม่ค่อยได้ ยกเว้น เมื่ออุณหภูมิภายนอกร่างกายสูงขึ้นหรือขณะออกกำลังกาย ปริมาณเหงื่อที่ขับถ่ายออกมาจะเพิ่มขึ้นจนสังเกตเห็นได้  เหงื่อที่ออกมาประกอบด้วยน้ำร้อยละ 99 และสารอื่นร้อยละ 1 ซึ่งได้แก่ เกลือโซเดียมคลอไรด์ (หรือที่เรารุ้จักกันในนามของเกลือแกง) ทำให้เหงื่อมีรสเค็ม และ สารอินทรีย์พวกยูเรียอีกเล็กน้อย 



2. ต่อมกลิ่น หรือ Apocrine Sweat Glands เป็นต่อมที่พบได้เฉพาะบางแห่ง ได้แก่ รักแร้ รอบหัวนม ขาหนีบ ทวารหนัก หัวหน่าว ก้น แผ่นหลัง ต่อมเหล่านี้มีท่อขับถ่ายใหญ่กว่าชนิดแรก สารที่ผลิตออกมาจะมีลักษณะเหนียวใสและมีส่วนผสมของไขมันอยู่มาก เมื่อหลั่งออกมาด้านนอกของผิวหนัง สารดังกล่าวจะถูกเชื้อแบคทีเรียเปลี่ยนให้เป็นแอมโมเนียและกรดไขมันสายสั้น  ซึ่งมีกลิ่นฉุน-เปรี้ยว 

องค์ประกอบของต่อมเหงื่อ (กรอบสีฟ้า) และต่อมกลิ่น (กรอบสีแดง)



กลิ่นตัวมีผลกระทบอย่างไรบ้าง 

การมีกลิ่นตัวที่มากหรือแรงจะทำให้ไม่เป็นที่น่าพอใจของผู้คนรอบข้าง กลิ่นตัวที่มากนี้จะทำให้บุคคลขาดความมั่นใจหรือมีคุณภาพชีวิตที่ลดลง

 

กลิ่นและเหงื่อที่เปียกชุ่มเป็นปัญหาสำคัญของรักแร้

 

ปัจจัยที่ส่งเสริมให้กลิ่นตัวมากขึ้น

อากาศร้อน ความเครียด อารมณ์ที่แปรปรวน หรือการรักษาสุขอนามัยที่ไม่สะอาดจะทำให้กลิ่นตัวมากขึ้น



กลิ่นตัวต่างจากกลิ่นเหงื่ออย่างไร

ปกติเหงื่อที่หลั่งมาจากต่อมเหงื่อจะไม่มีกลิ่น บางภาวะอาจทำให้เหงื่อมีกลิ่นได้ เช่น รับประทานกระเทียม อาหารรสจัดกลิ่นแรง ยาบางชนิด 

 

กลิ่นตัวกับภาะวะเหงื่อออกมากสัมพันธ์กันหรือไม่

กลิ่นตัวจะมาจากต่อมกลิ่น ต่างกับเหงื่อที่มาจากต่อมเหงื่อ กลิ่นตัวอาจมาร่วมกับภาวะเหงื่อออกมากหรือไม่ก็ได้  บางคนมีเหงื่อออกมากแต่ไม่มีกลิ่น บางคนมีกลิ่นตัวแต่ไม่มีเหงื่อ และบางคนมีทั้งเหงื่อและกลิ่นตัว

 

การรักษาและป้องกันการมีกลิ่นตัว

1. การรักษาสุขอนามัยให้สะอาด ช่วยลดปริมาณสารก่อกลิ่นที่หลั่งจากต่อมกลิ่นได้ 

2. หลีกเลี่ยงภาวะที่ร้อนจัด ภาวะอับชื้น เพราะเหงื่อที่เปียก ทำให้เกิดกลิ่นอับและทำให้แบคทีเรียทำงานมากขึ้น

3. การใช้สารระงับกลิ่น  (deodorants)  เช่น สารส้ม , ไตรโคลซาน ช่วยลดจำนวนเชื้อแบคทีเรีย หรือการใช้น้ำหอม (Perfeume) ที่ช่วยกลบกลิ่น

4. การใช้สารระงับเหงื่อ (antiperspirants) เช่น อลูมิเนียมคลอโรไฮเดรต (aluminium chlorohydrate)  ทำให้ผิวหนังแห้งและแบคทีเรียที่ก่อกลิ่นตัวเติบโตไม่ดี จึงสามารถช่วยลดกลิ่นตัวได้

6. กำจัดขนบริเวณรักแร้เพื่อป้องกันแบคทีเรียและการสะสมของสารก่อกลิ่น

7. สบู่ฆ่าเชื้อ เพื่อลดแบคทีเรีย

8. การฉีดโบท็อก เพื่อลดการสร้างสารก่อกลิ่น

9. การผ่าตัดเอาต่อมกลิ่นออก เป็นวิธีการรักษาที่ได้ผลดี แต่อาจมีผลข้างเคียงหลังการรักษา เช่น มีแผลเป็น การติดเชื้อ เป็นต้น

 

ความจริงเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย ที่มีขายในปัจจุบัน

  • ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย ส่วนใหญ่ ที่วางขายในท้องตลาดมี ส่วนผสมหลัก คือ อลูมิเนียมคลอโรไฮเดรต มีส่วนน้อย ที่ใช้ส่วนผสมหลักเป็น สารส้ม
  • นอกจากส่วนประกอบหลักข้างต้นก็จะมีส่วนประกอบอื่นๆที่แตกต่างกันไปในแต่ละแบรนด์​ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและมูลค่าทางการตลาด เช่น สารยับยั้งแบคทีเรีย สารเพิ่มความเนียน กระชับรูขุมขน ปรับผิวใต้วงแขนให้แลดูขาว
  • มีจำหน่ายในรูปบบแต่างๆ เช่น ลูกกลิ้ง (ที่เราเรียกติดปากว่าโรลออน) ,ผงแป้ง ,แท่งสติ๊ก และสเปรย์ 

 

ทำไมใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายหลายๆยี่ห้อแล้วมีอาการคันรักแร้ ใช่อาการแพ้หรือไม่?

อาการคันรักแร้ที่มักเกิดขึ้นเป็นบางครั้ง เกาแป๊บเดียวก็หายไป อาจไม่ใช่อาการแพ้ สาเหตุที่ทำให้คันนั้น อาจเกิดจากโรลออนที่ใช้มีส่วนผสมของสารระงับเหงื่อที่ชื่อ  อลูมิเนียมคลอโรไฮเดรต  ซึ่งทำหน้าที่ลดกลิ่นโดยไปทำปฏิกิริยากับโปรตีนบนผิวเกิดเป็นเจลเหนียวไปอุดปากท่อรูขุมขนที่เป็นทางออกของเหงื่อ เมื่อรูขุมขมถูกปิดกั้น ทำให้บางคนมีอาการคันยิกๆในบางครั้ง ซึ่งไม่ใช่การแพ้แต่อย่างใด  อย่างไรก็ตาม ถ้าอาการคันเกิดขึ้นบ่อยมากจนต้องเกาแล้วทำให้เสียบุคลิก การเปลี่ยนไปใช้สารระงับกลิ่นกายที่ใช้ส่วนผสมแบบอื่นจึงเป็นทางเลือกที่ดี

 

การออกฤทธิ์ของอลูมิเนียมคลอโรไฮเดรตในการลดเหงื่อ

 

การอุดรูขุมขนของอะลูมืเนียมคลอโรไฮเดรต จะเกิดขึ้นอย่างถาวรหรือไม่

คำตอบ คือ ไม่  เพราะถ้าอุดได้ถาวร คนเราก็คงไม่ต้องใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายทุกวัน ความจริงก็คือ เจลเหนียวที่อุดนี้จะหลุดออกไปเองจากการผลัดเซลล์ผิวตามธรรมชาติ หรือจากการอาบน้ำขัดถูรักแร้ในทุกๆวัน 

 

จริงหรือไม่ที่ อลูมิเนียมคลอโรไฮเดรต เป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็งเต้านม

ไม่จริง ขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานที่น่าเชื่อถือที่ยืนยันได้ว่าสารนี้ เป็นสาเหตุของมะเร็งเต้านม และ American cancer society ยืนยันว่าข้อมูลตามข่าวไม่เป็นความจริง เอกสารขี้แจงจาก อย.ไทย

 

ถ้าไม่ใช้โรลออนที่ผสม อลูมิเนียมคลอโรไฮเดรต ควรใช้อะไรแทนดี เพราะโรลออนแทบทุกยี่ห้อในท้องตลาดมักผสมสารนี้

ตอบ แนะนำผงแป้งรักแร้สูตรสารส้มของฟาร์มาบิวตี้แคร์ ใช้ส่วนประกอบหลักเป็นสารส้มจากธรรมชาติ  ขนาดบรรจุ 40 กรัม ราคา 250.- ใช้ได้ 2-3 เดือน

จุดเด่น ทำหน้าที่ลดกลิ่นใต้รักแร้โดยการไปทำให้สภาวะใต้รักแร้ไม่เหมาะกับการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ไม่ปิดท่อรูเหงื่อและรูขุมขน ไม่อุดตัน  อีกทั้งอนุภาคของสารส้ม มีขนาดใหญ่ จึงไม่ถูกดูดซึมเข้าสู่ผิวหนัง

ข้อด้อย เนื่องจากตัวสารส้มไม่มีคุณสมบัติในการอุดรูขุมขน ทำให้ผู้ใช้อาจมีเหงื่อมากกว่าการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผสมสารระงับเหงื่อเช่นอลูมิเนียมคลอโรไฮเดรต แต่ถึงจะมีเหงื่อ ก็จะเป็นเหงื่อที่ไม่มีกลิ่นค่ะ

 

ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก

ผศ.พญ.จรัสศรี ฬียาพรรณ ภาควิชาตจวิทยา
Faculty of Medicine Siriraj Hospital
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้