Last updated: 25 ก.ค. 2565 | 38156 จำนวนผู้เข้าชม |
มาว่ากันเรื่องครีมตัวขาวใส่สารต้องห้าม พวกสเตียรอยด์ ไฮโดรควิโนน เกาะกระแสกันสักนิดนะคะ
จากที่มีผู้เสียหายแชร์รูปผิวแตกลายเนื่องจากใช้ครีมทาผิวขาวยี่ห้อหนึ่ง โดยระบุว่า เป็นครีมผิวขาวที่ตัวเองเป็นตัวแทนด้วยเพราะลองใช้แล้วได้ผลดี แต่จากนั้นไม่นานก็เริ่มมีผิวแตกลายที่เต้านม
เรามาดูกันว่า เพราะอะไร เกิดขึ้นได้อย่างไร
ปกติครีมทาตัวเพื่อเน้นผิวให้แลดูขาว กระจ่างใส เอาแบบเกรดดีๆ ราคาต้นทุนต่อกิโล มันแทบไม่ได้ต่างจากครีมทาหน้าขาว หน้าใสเลยค่ะ เพราะ % ของไวเทนนิ่งที่ใส่มันก็ต้องเท่าๆกัน มันถึงจะช่วยเรื่องขาวได้ อาจจะต่างกันแค่สารกลุ่มบำรุงเท่านั้น
แต่ในทางการตลาดแล้ว เราจะใส่ไวเทนนิ่งในครีมทาตัว ในระดับความเข้มข้นที่น้อยกว่า (ภาษาในเนตเรียกว่า โดสต่ำ) เพื่อลดต้นทุน ทำให้หลายๆคนบ่นว่า ทาหมดกระปุกแล้วยังไม่ขาวเลย ต้องมีกระปุกต่อไป และบางคนก็เปลี่ยนแบรนด์ไปเลย
ตัวอย่าง
# ราคาต่อกิโล
1. ครีมหน้าขาวใส สูตรทาหน้า ราคาต่อกิโล 5000-7000
2. ครีมตัวขาว ออร่า สูตรทาตัว ราคาต่อกิโล 2000-3000
จากราคา จะเห็นว่า สูตรทาหน้าแพงกว่า ทาแล้วก็จะขาวเร็วกว่า ส่วนสูตรทาตัว ถูกกว่า ทาแล้วก็จะขาวช้ากว่า
# ขนาดบรรจุ
1. ครีมทาหน้า บรรจุ 20 กรัม ต้นทุนต่อกระปุก รวมค่ากระปุก ค่าสติกเกอร์ ค่าบรรจุ อยู่ที่ 150-200 บาท ราคาขาย แล้วแต่จะตั้ง บางแบรนด์ก็สมราคามีคุณธรรม บางแบรนด์ก็แบบขายหวังรวยเร็ว
2. ครีมทาตัว บรรจุขั้นต่ำก็จะเป็น 50 กรัม 100 กรัม น้อยกว่านี้ก็ไม่ได้ เพราะมันต้องทาเยอะ
สมมติบรรจุ 100 กรัม ขนาดมาตรฐานทั่วไป ราคาต้นทุนจะอยู่ที่ 200-300 บาท ต่อกระปุก เห็นมั้ยคะว่าต้นทุนแท้จริง มันสูงกว่าครีมทาหน้าที่บรรจุแค่ 20 กรัม ไปเกือบเท่าตัว แถมใช้แล้วยังขาวช้ากว่า ต้องมีกระปุกที่ 2,3,4 ไปเรื่อยๆ จึงจะเริ่มเห็นผล ลูกค้าคงไม่ทนถึงขนาดนั้น เขาเปลี่ยนแบรนด์ตั้งแต่กระปุกที่สองแล้วค่ะ
มันก็เลยเป็นที่มาของครีมเถื่อน ครีมมีสาร แบบที่กำลังดังอยู่ตอนนี้ แค่ใส่สารต้องห้ามเช่น สเตียรอยด์ ไฮโดรควิโนนเข้าไป ต้นทุนต่อกระปุกจะถูกลงมาก และเห็นผลในกระปุกแรก ลูกค้าใช้แล้วถูกใจ กลับมาซื้อซ้ำ สมัครตัวแทน เปิดบิล แจกทอง ต้นทุนเนื้อครีมจริงๆอาจจะเหลือกระปุกละไม่ถึง 100 บาท แต่ขาย 1200 แพงไปไหน ! ก็เพราะเสียค่าการตลาดเดือนละเป็นแสน เอามาบวกในราคาขาย คนซื้อก็รับภาระตรงนี้ไป
# ทำไมต้องเป็นสเตียรอยด์
เพราะสเตียรอยด์ช่วยให้เห็นผลเร็ว ลดต้นทุนได้มาก ได้กำไรมาก ลูกค้าติด ซื้อซ้ำ บอกต่อ ติดตลาดง่าย รวยเร็ว ผลที่ได้จากสเตียรอยด์ไม่ใช่แค่ช่วยให้ผิวขาวเท่านั้น แต่ผิวจะเรียบเนียน นุ่มราวกับก้นเด็ก พวกขุย สะเก็ด รอยแดงต่างๆบนผิว ไม่ว่าจะรอยยุงกัด รอยแพ้ต่างๆ พวกนี้ก็จะอันตรธานหายไปราวกับเสกได้เลยทีเดียว
# ผิวแตกลายแบบในข่าวคืออะไร
เป็นอาการผิวแตกลาย (striae) จากสเตียรอยด์ เชื่อว่าสเตียรอยด์ไปทำลายคอลลาเจนใต้ผิว คอลลาเจนเกิดการซ่อมแซมแบบผิดปกติ จนดึงรั้งกันเองหมือนพังผืด
# มันไม่ใช่แค่ผิวเสีย ใช้นานมากๆ มีโอกาสเป็น cushing syndrome จากการที่สเตียรอยด์ถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด
แม้ภาวะคุชิ่งซินโดรมจากการใช้ครีมสเตียรอยด์จะพบได้น้อย แต่ไม่ได้แปลว่าจะไม่พบเลย มีเคสรีพอร์ทให้เห็นเรื่อยๆ โดยเฉพาะคนที่ใช้ครีมสเตียรอยด์เป็นระยะเวลานาน
ในต่างประเทศ พบเคส คุชิ่งซินโดรม ในผู้ป่วยโรคผิวหนังอักเสบ เช่น สะเก็ดเงิน ที่ใช้ครีมยาสเตียรอยด์ทาติดต่อกันหลายปี แต่สำหรับประเทศไทยแล้ว อาจมีโอกาสเกิดขึ้นจากการใช้ครีมทาผิวขาวที่แอบผสมสเตียรอยด์
อาการของคุชิ่งซินโดรมคืออ้วนขึ้นแต่อ้วนแต่ส่วนบน หน้ามนเป็นพระจันทร์ (moon face) หน้าแดงแก้มแดง มีไขมันพอกที่เหนือกระดูกไหปลาล้าและหลังจนเหมือนมีหนอกอย่างควาย (buffalo hump) ผิวหนังสีคล้ำขึ้น ผิวแตกลาย เกิดจ้ำเลือดง่าย ชั้นผิวหนังบางขึ้น กล้ามเนื้อส่วนโคนแขนโคนขาอ่อนแรง จนชั้นแต่จะขึ้นบันไดหรือยกมือขึ้นก็ยังยาก ประจำเดือนก็ขาดๆหายๆไม่สม่ำเสมอ หรือไม่มา หรือเป็นหมัน มีปัญหาทางจิตใจด้วย ซึมเศร้า สมองเสื่อม อารมณ์แปรปรวน ความดันก็ขึ้น เป็นเบาหวานง่าย แผลหายช้า ติดเชื้อง่าย กระดูกพรุน หรือกระดูกหัก เป็นต้น ....ข้อมูลจากเว็บบล็อก นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์
# อาการผิวแตกลายจากครีมสเตียรอยด์รักษาได้หรือไม่
สามารถใช้เลเซอร์รักษาได้ แต่ไม่100% ใช้เวลานาน ราคาสูง และอาจะไม่ได้ผลในบางคน
# คุชิ่งซินโดรมจากการใช้ครีมสเตียรอยด์รักษาได้หรือไม่
สามารถรักษาได้ เป็นการรักษาประคับประคองตามอาการ หายเป็นปกติได้ถ้ารีบรักษา
# แล้วครีม/เซรั่มปรับผิวขาว ของที่นี่ มีสารต้องห้ามไหมคะ?
ตอบ ไม่มีแน่นอนค่ะ อ่านเพิ่มเติมในภาพนะคะ